วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

“ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ” ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จังหวัดพะเยา

 
วันที่ 3 ก.พ.2557 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปยังโรงเรียนเชียงม่วนวิทยาคม อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา ทรงเยี่ยมหน่วย พอ.สว. และหน่วยแพทย์พระราชทาน สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ที่โปรดให้ออกหน่วยบริการตรวจรักษาราษฎรที่เจ็บป่วย โดยจังหวัดพะเยา สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เป็นจังหวัดแพย์อาสาลำดับที่ 47 ในปี 2520 ปัจจุบันมีแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ อาสาสมัครสายต่าง ๆ รวม 1,484 คน ในปี 2556 ได้ปฏิบัติงานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.18 หมู่บ้าน 24 ครั้ง มีผู้ป่วยมารับบริการกว่า 1,800 ราย ในการนี้ ทรงเยี่ยมราษฎรบ้านมาง และใกล้เคียงที่มาเฝ้ารับเสด็จ พร้อมพระราชทานของเล่นแก่เด็กเล็ก  บ้านมางมีราษฎร 893 หลังคาเรือน ประชากร 1,961 คน ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เมื่อเจ็บป่วยจะไปรับบริการที่โรงพยาบาลเชียงม่วน ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตร และที่หน่วยปฐมภูมิบ้านมาง

จากนั้น ทรงเยี่ยมหน่วย พอ.สว. จังหวัดพะเยา และหน่วยแพทย์พระราชทาน สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ที่ออกหน่วยบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป ทันตกรรมและแพทย์แผนไทยแก่ราษฎร รวม 348 คน ส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรคระบบโครงสร้างและกล้ามเนื้อ, โรคระบบทางเดินหายใจ, โรคระบบกระดูกและข้อ มีผู้ป่วยส่งรักษาต่อโรงพยาบาลในจังหวัด, โรงพยาบาลส่วนภูมิภาค, โรงพยาบาลส่วนกลาง 14 คน นอกจากนี้มีผู้ป่วยนำเฝ้า 4 คน เพื่อมีพระวินิจฉัยอาการร่วมกับคณะแพทย์ ได้แก่ ผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมหมวกไต กระจายไปที่สมอง, ผู้ป่วยอาการเส้นประสาทอักเสบ, และผู้ป่วยโรคไวรัสขึ้นสมอง ส่งรักษาต่อโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ส่วนผู้ป่วยโรคลมชักและโรคอ้วนส่งรักษาต่อโรงพยาบาลศิริราช

โอกาสนี้ มีพระดำรัสแก่คณะพอ.สว. จังหวัดพะเยา โดยมีพระดำรัสถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขของราษฎร

นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ติดตามผลการดำเนินงานโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่

 
 
วันที่ 3 ก.พ.2557 นายพลากร  สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมด้วยเลขาธิการ กปร.หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชนจากส่วนกลางในโครงการ “สื่ออาสา สืบสานพระราชดำริ” ไปเยี่ยมชมความสำเร็จของโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริดอยฟ้าห่มปก อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมมอบเครื่องกันหนาวพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แก่ราษฎรและเจ้าหน้าที่ จำนวน 71 ราย

โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริ ดอยฟ้าห่มปก เกิดขึ้นจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อปี 2544  เพื่อให้ราษฎรชาวไทยภูเขาได้เข้ามาอาศัยและทำกินในพื้นที่โครงการ โดยให้คนอยู่กับป่าได้อย่างเหมาะสมและยั่งยืน มีราษฎรเข้าร่วมโครงการ 4 ชนเผ่า ได้แก่ อาข่า มูเซอกะเหรี่ยง และลีซอ มีกิจกรรมปลูกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าไม้ ไว้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร และแหล่งอาหารของชุมชน  นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้ปลูกข้าวจ้าวพันธุ์ กข. 9, และกาแฟอาราบิก้าพันธุ์เชียงใหม่ 80  ให้ความรู้ในการประกอบอาชีพเกษตร การดำรงชีวิตประจำวัน ปัจจุบันพบว่าสภาพป่ามีความสมบูรณ์ขึ้นนอกจากนี้ยังส่งเสริมงานศิลปาชีพ สร้างรายได้แก่ราษฎรเพิ่มขึ้นจาก 54,740 บาทในปี 2554 เป็น 69,290 บาทต่อครัวเรือน ในปี 2556

กษัตริย์นักพัฒนา


ฉันก็เป็นคนไทยคนหนึ่งที่เกิดในผืนแผ่นดินของพระมหากษัตริย์ที่ดีและเก่งที่สุดในโลก พระองค์ทรงทำทุกอย่างเพื่อให้ “ชาวไทย” ที่อาศัยใต้ร่มบารมีของพระองค์เป็นสุข พระองค์ทรงรักและห่วงใยชาวไทยทุกคนเสมือนเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกับพระองค์เอง

เพราะพระองค์ ฉันจึงรู้จักคำว่า “เศรษฐกิจพอเพียง”

“เศรษฐกิจพอเพียง”เป็นปรัชญาที่ในหลวงทรงชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยให้รอดพ้นจากภัยวิกฤต ดำรงชีวิตโดยยึดทางสายกลาง รู้จักประมาณตนในการครองชีพ ประหยัด เรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ เห่อเหิมจนเกินตัว มีความรักความเมตตาในเพื่อนมนุษย์ ซึ่งจะทำให้สังคมชุมชนดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

คงด้วยปรัชญาของพระองค์นี้เอง ทำให้ประเทศไทยผ่านภัยพิบัติที่ร้ายแรงมาได้เกือบทุกครั้ง  พระองค์ทรงห่วงใยคนไทยเหมือนกับพ่อที่ห่วงใยลูก  

 พระองค์ทรงทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องชาวไทยทุกคนให้ปลอดภัย พระองค์ทรงช่วยเหลือให้ชาวไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สอนให้รู้จักพึ่งพาตนเอง ให้รู้จักทำมาหากิน ทรงช่วยเหลือชาวไทยที่ทุกข์ร้อน

 ดังจะเห็นได้จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พระองค์ทรงติดตามข่าวอุทกภัยอย่างใกล้ชิดด้วยความเป็นห่วง จนดึกดื่นเที่ยงคืนพระองค์ก็ยังไม่เสด็จบรรทม ทั้งทรงตั้งคำถามผ่านเครื่องโทรพิมพ์ไปทางหาดใหญ่ว่า “น้ำลดหรือยัง”

คำตอบผ่านกลับมาตอนประมาณตีสองตีสาม มีข้อความตอบด้วยความไม่พอใจว่า   “ถามอะไรอยู่ได้ ดึกดื่นป่านนี้แล้ว คนเขาจะหลับจะนอน” แต่ตอนท้ายก็ไม่ลืมบอกด้วยว่า “น้ำลดแล้ว”   

พระองค์ก็ไม่ทรงถือสา กลับเล่าให้ผู้ใกล้ชิดฟังด้วยความเมตตา

นอกจากนี้ พระองค์ยังสอนให้คนไทยมีความสามัคคี ช่วยเหลือ แบ่งปัน รัก และเมตตาต่อกัน

ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมชาวไทยทุกคนจึงเทิดทูนพระองค์ไว้เหนือเกล้า ทำไมชาวไทยทุกคนจึงเชื่อมั่นในพระราชดำริของพระองค์แล้วนำไปปฏิบัติ คงเป็นเพราะความรักที่พระองค์พระราชทานแก่ชาวไทยตลอดเวลานั่นเอง   

เมื่อมีโอกาสจะเห็นได้ว่าชาวไทยทุกคนต่างพร้อมใจกันถวายความจังรักภักดี  ดังจะเห็นได้จากการพากันสวมเสื้อเหลืองเนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี

ในวันนั้น แม้จะต้องยืนท่ามกลางแสงแดด และผู้คนที่เบียดเสียดกันอย่างแน่นขนัด  ไม่เพียงแต่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯเท่านั้น แต่ยังมาจากทุกถิ่นที่ ทุกเพศ ทุกวัย แม้กระทั่งผู้พิการก็เดินทางมา

 เพียงเพื่อได้พบพระพักตร์ของพระองค์ เพื่อให้ประจักษ์กับตาตัวเองว่า พ่อหลวงของพวกเขายังทรงมีพระสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงหรือไม่  

 เมื่อเห็นว่าพระองค์ทรงโบกพระหัตถ์และแย้มพระสรวล น้ำตาแห่งความปีติของชาวไทยก็เอ่อล้นออกมาเกือบจะทุกคนโดยมิได้นัดหมาย นี่คงเป็นความรักและความผูกพันที่ชาวไทยมีต่อพระองค์ในฐานะพ่อผู้ปกครองประเทศ

 ความห่วงใยของพระองค์ที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยทำให้พระองค์ทรงสนพระทัยเกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะพระองค์ทรงทราบว่า ถ้าธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่ดีสิ่งมีชีวิตก็ไม่สามารถดำรงอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขได้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำมาแต่ครั้งโบราณ

ดังนั้น อาชีพเกษตรกรรมจึงเป็นอาชีพหลักที่คนไทยใช้ในการเลี้ยงครอบครัว น้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้กลไกธรรมชาติสมบูรณ์ เอื้อต่อการปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ   พระองค์จึงดำรัสให้มีการฟื้นฟูป่าเพื่อรักษาแหล่งน้ำ รณรงค์ให้ประชาชนอนุรักษ์ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ 

ทรงแนะนำสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยให้เกษตรกรหันมาปลูกและใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝก เพราะหญ้าชนิดนี้ นอกจากจะรักษาหน้าดิน ทำให้ดินเกิดความชุ่มชื่น สามารถเก็บกักน้ำได้ ป้องกันน้ำท่วมแล้ว รากของหญ้าแฝกยังมีกลิ่นเหมือนน้ำมัน กลิ่นเหล่านี้จะรบกวนหนูนาและแมลงศัตรูพืชบางชนิด     หญ้าแฝกใช้เป็นแนวรั้วตามธรรมชาติได้และยังได้ประโยชน์ในทางนิเวศวิทยาไปพร้อมกัน

หรือการที่พระองค์ทรงทดลองนำพืชธรรมชาติ เช่น  สบู่ดำ มันสำปะหลัง ปาล์ม และพืชที่มีน้ำมันอยู่ในตัวทุกชนิด มาสกัดใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ ที่เรียกว่า “ไบโอดีเซล” ซึ่งช่วยลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ข้อดีของ “ไบโอดีเซล” นอกจากไม่ทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมีราคาถูกอีกด้วย 

พระอัจฉริยภาพของพระองค์แสดงให้เห็นถึงการใช้ธรรมชาติช่วยเหลือธรรมชาติด้วยกัน เมื่อธรรมชาติไม่ถูกทำลาย สิ่งที่ตามมาก็คือมนุษย์สามารถใช้ประโยชน์จากธรรมชาติได้ คือมีอาหาร มีที่อยู่ มีน้ำ มีอากาศที่ดี ฯลฯ เมื่อธรรมชาติเกิดความสมดุล เราก็อยู่ได้อย่างพอเพียงโดยไม่ต้องอาศัยสารเคมีและสิ่งที่อาจทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ฉันรู้สึกประทับใจพระองค์ท่านมาก ตลอดเวลาที่พระองค์ทรงห่วงใยลูกหลานชาวไทยทุกคน พระองค์เป็นพ่อที่ดีของลูกๆ เป็นพ่อหลวงที่ดีของชาวไทย สอนให้คนไทยรู้จักการดำเนินชีวิตที่ “พอดี พอเพียง” ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดี เราสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้     

พระองค์ไม่เพียงแต่เป็นนักปกครองชั้นเยี่ยม แต่พระองค์ยังประสบความสำเร็จสูงสุดในการพัฒนาคน

‘Lifetime  Achievement  in  Human  Development  Award’ คือรางวัลแรกที่โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติทำขึ้นถวาย เพื่อเทิดพระเกียรติที่พระองค์ท่านทรงมีพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชาวไทย อันเนื่องมาจากแนวพระราชดำริ “เศรษฐกิจพอเพียง”

ฉันภูมิใจที่ได้เกิดในผืนแผ่นดินไทย เพราะประเทศไทยทำให้ฉันมีพระมหากษัตริย์ ที่เสียสละ เอาใจใส่ ช่วยเหลือชาวไทยทุกคน  

ทุกๆ วันฉันสวดมนต์ภาวนาให้ในหลวงของฉันทรงพระเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป

ฉันขอสัญญาว่าฉันจะเชื่อฟังคำสอนของในหลวง ฉันจะตั้งใจเรียนเพื่อนำความรู้มาช่วยให้ประเทศไทยพัฒนา เพราะประเทศไทยทำให้ฉันดำรงชีวิตอยู่ในสังคมไทยได้อย่างมีความสุข เพราะประเทศไทย ฉันจึงมีพระมหากษัตริย์ที่สอนให้คนไทยมีความสามัคคี ช่วยเหลือ แบ่งปัน และไม่ทะเลาะกัน

ทรงสอนให้คนไทยมีอาชีพ สามารถพึ่งพาตนเองได้  

และเพราะประเทศไทย จึงทำให้ฉันมีพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นแบบอย่างของ “เศรษฐกิจพอเพียง”

ฉันรักประเทศไทย  และฉันก็รักในหลวงของฉันด้วย.

……………………………………………………..

ที่มา : เรียงความชนะการประกวดของด.ญ.ใบฝ้าย กาเจริญ ป.๖ ร.ร.ประถมสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา  กรุงเทพฯ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ฯ รัชกาลที่ ๙ พ.ศ. ๒๔๙๙