แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พระราชทาน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พระราชทาน แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557

พระราชทานเครื่องห่มกันหนาวแก่ราษฎรผู้ประสบภัยหนาว จ.ลำพูน


วันที่ 8 ม.ค.2557 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สภากาชาดไทย นำเครื่องห่มกันหนาวไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ และมอบแก่ราษฎรผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดลำพูน ประกอบด้วย ผ้าห่มจำนวน 1,260 ผืน และเสื้อกันหนาวสำหรับนักเรียนจำนวน 1,200 ตัว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบภัย โดยพิธีจัดขึ้นที่ลานอเนกประสงค์สำนักงานเทศบาล ตำบลทาสบชัย อำเภอแม่ทา และที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอบ้านโฮ่ง

วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

ผู้แทนพระองค์มอบถุงพระราชทานผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดพะเยา น่าน และกาญจนบุรี


วันที่ 6ม.ค.2557 ผู้แทนพระองค์มอบถุงพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดพะเยา, น่าน และกาญจนบุรี

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ร้อยเอกไพบูลย์ สุขเจตนี รองผู้อำนวยการกองงานพระวรชายาฯ เป็นผู้แทนพระองค์ มอบถุงพระราชทานภัยหนาว จำนวน 1,000 ถุง พร้อมจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทาน ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ให้บริการตรวจรักษาผู้เจ็บป่วยที่วัดท่าฟ้าเหนือ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา และโรงเรียนบ้านวังยาว อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน                     

จังหวัดพะเยาประกาศให้พื้นที่ 9 อำเภอ เป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผู้ประสบภัยหนาวกว่า 83,000 คน ได้รับความช่วยเหลือแล้ว 35,750 คน นอกนั้นยังขาดแคลนเครื่องกันหนาว สำหรับที่อำเภอเชียงม่วน มีราษฎรเดือดร้อนกว่า 6,000 คนส่วนที่จังหวัดน่านมีผู้ประสบภัยหนาวที่ขาดแคลนเครื่องกันหนาวในพื้นที่ 15 อำเภอ กว่า 100,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ, ผู้มีรายได้น้อย และผู้ประสบความเดือดร้อน สำหรับที่อำเภอบ้านหลวง มีผู้ประสบภัยหนาวที่ยังขาดแคลน รวม 2,300 คน

ที่จังหวัดกาญจนบุรี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอกเจษฎา ศรีสุภาพ รองสมุหราชองครักษ์ เป็นผู้แทนไปมอบสิ่งของพระราชทานแก่ชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงที่ประสบภัยหนาวในพื้นที่บ้านกองม่องทะ และบ้านจะแก ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี ซึ่งปัจจุบันยังคงมีความเดือดร้อนตามประกาศของจังหวัด เรื่องประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอำเภอสังขละบุรี พื้นที่บ้านกองม่องทะ และบ้านจะแก เป็นเขตพื้นที่ที่ได้รับภัยพิบัติฯ  

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

“ในหลวง” พระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ประสบภัยหนาว


วันที่ 26 ธ.ค.2556 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ภาคเหนือ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยหนาวในจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้มอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอกัลยาณิวัฒนา และหอประชุมที่ว่าการอำเภอสะเมิง รวม 1,000 ผืน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ คาดว่าสภาพอากาศทางภาคเหนือตอนบนในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ อุณหภูมิจะต่ำสุด 13-21 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณเทือกเขา หรือยอดดอยจะมีอุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส ทำให้จังหวัดเชียงใหม่โดยเฉพาะในพื้นที่สูงจะได้รับผลกระทบจากภัยหนาวต่อไปอีก ซึ่งขณะนี้ได้ประกาศให้ทั้ง 25 อำเภอเป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

สภากาชาดไทย ร่วมกับจังหวัดนครพนม นำผ้าห่มกันหนาว จำนวน 1,200 ชุด และเสื้อกันหนาวพร้อมอุปกรณ์การเรียน จำนวน 200 ชุด ไปมอบแก่ประชาชนและนักเรียน เพื่อบรรเทาความหนาวเย็น และสร้างขวัญกำลังใจ ที่วัดบัวขาว อำเภอเรณูนคร และหอประชุมโรงเรียนกุตาไก้วิทยาคม อำเภอปลาปาก โดยสภากาชาดไทยได้ให้สถานีกาชาดต่าง ๆ ที่รับผิดชอบพื้นที่ภัยหนาว ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง

วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556

“ในหลวง” พระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัย


วันที่ 24 ธ.ค.2556 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัย และภัยหนาว โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดต่าง ๆ โดยนายประสงค์ พิทูรกิจจา เลขาธิการมูลนิธิฯ และคณะ ไปมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 41อำเภอรามัน จังหวัดยะลา 2,000 ครัวเรือน, องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล 2,000 ครัวเรือน, และโรงเรียนวัดตันตยาภิรมย์ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง อีก 1,000 ครัวเรือน โดยพื้นที่ภาคใต้ได้รับผลกระทบจากหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนเข้ามาปกคลุมประเทศมาเลเซีย ในช่วงวันที่ 22 – 23 ธันวาคมนี้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น  ทำให้มีฝนเพิ่มมากขึ้น เกิดน้ำป่าไหลหลาก, น้ำล้นตลิ่ง, และน้ำท่วมขังในหลายจังหวัด ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเร่งเตรียมการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย            

ส่วนนายประวิทย์  หาญณรงค์ รองประธานกรรมการบริหารมูลนิธิฯ และคณะ ไปมอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทานแก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาว ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย และที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ รวม 1,000 ผืน โดยบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และมีความกดอากาศสูงระลอกใหม่แผ่เสริมลงมาในช่วงวันที่ 21 – 23 ธันวาคมนี้ ทำให้มีอากาศหนาวเย็นต่อไป ขณะนี้มีการประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินภัยหนาวแล้ว 12 จังหวัด 78 อำเภอ 519 ตำบล 5,806 หมู่บ้าน มีราษฎรได้รับผลกระทบกว่า 1 ล้านครัวเรือน กว่า 3.2 ล้านคน

หน่วยแพทย์พระราชทานพระตำหนักจักรีบงกช จัดกิจกรรม “การคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชายอายุ 55 – 69 ปี” ณ บริเวณพระตำหนักจักรีบงกช จังหวัดปทุมธานี เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 ภายใต้แนวคิด “ความรักพ่อนั้นยิ่งใหญ่ โปรดใส่ใจในสุขภาพของพ่อ” เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มีการเจาะเลือดเพื่อหาค่าของเอนไซม์ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก และนิทรรศการความรู้เรื่องมะเร็งต่อมลูกหมาก จากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติปี 2552 พบว่ามะเร็งต่อมลูกหมากติดอันดับ 4 ของมะเร็งที่พบบ่อยในเพศชาย ปัจจุบันพบมะเร็งในระยะเริ่มต้นมากกว่าระยะลุกลาม เนื่องจากสามารถตรวจคัดกรองได้ นอกจากนี้ มีบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป กิจกรรมยางยืดพิชิตโรค และการให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556

“พระราชินีฯ” พระราชทานผ้าห่มกันหนาวช่วยเหลือประชาชน จ.ศรีสะเกษ


วันที่ 20 ธ.ค.2556  สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทานช่วยเหลือประชาชนและพระภิกษุสงฆ์ผู้ประสบภัยหนาว จ.ศรีสะเกษ เพื่อบรรเทาความหนาวเย็นและสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน


วานนี้ที่หอประชุมที่ว่าการ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกา สภากาชาดไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางมามอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทานแก่ประชาชนที่กำลังประสบภัยหนาวในเขต อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จำนวนทั้งสิ้น 400 ชุด พร้อมทั้งถวายพระภิกษุสงฆ์จำนวน 30 ชุด โดยมี นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นางศิรดา กีรติเรขา นายกเหล่ากาชาด จ.ศรีสะเกษ และคณะกรรมการเหล่ากาชาด จ.ศรีสะเกษ ให้การต้อนรับ และร่วมพิธีมอบผ้าห่มกันหนาวในครั้งนี้

นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยราษฎรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ประสบภาวะความหนาวเย็น จึงได้พระราชทานความช่วยเหลือ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตนเป็นผู้แทนพระองค์นำเครื่องกันหนาว จำนวน 1,660 ชุดมาถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ และมอบแก่ประชาชน เพื่อบรรเทาความหนาวเย็นและสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชนในพื้นที่ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ อ.ศิลาลาด อ.ราษีไศล และ อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ

ขณะที่ในช่วงเช้าผู้แทนพระองค์ได้เดินทางไปที่หอประชุมที่ว่าการ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ และหอประชุมที่ว่าการ อ.ศิลาลาด เพื่อถวายผ้าห่มกันหนาวแด่พระภิกษุสงฆ์ อำเภอละ 30 ชุด และมอบผ้าห่มกันหนาว และเสื้อกันหนาวแก่ประชาชน อำเภอละ 400 ชุด จากนั้นในช่วงบ่ายได้เดินทางไปที่หอประชุมที่ว่าการ อ.ราษีไศล และหอประชุมที่ว่าการ อ.ยางชุมน้อย เพื่อถวายผ้าห่มกันหนาวแด่พระภิกษุสงฆ์ อำเภอละ 30 ชุด และมอบผ้าห่มกันหนาวและเสื้อกันหนาวให้แก่ประชาชน อำเภอละ 400 ชุด

นอกจากนี้ ยังมีผ้าห่มกันหนาวอีกกว่า 20,000 ผืนที่สภากาชาดไทยมอบหมายให้เหล่ากาชาด จ.ศรีสะเกษ ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่ที่ประสบภัยหนาว นำไปมอบให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อน โดยเป็นผ้าห่มทอมือจากฝีมือชาวบ้าน 30 จังหวัดที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสภากาชาดไทย ตามนโยบายด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นอีกภารกิจหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือประชาชนของสภากาชาดไทย

วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

“ในหลวง-พระราชินีฯ” พระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎรในพื้นที่ต่างๆ


เมื่อ 19 ธ.ค.2556 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎรในพื้นที่ต่างๆ โดยนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงาน กปร. และคณะ ไปติดตามความสำเร็จของโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสันติสุข อำเภอปง จังหวัดพะเยา พร้อมกับมอบข้าวพันธุ์พื้นเมือง เบียเลียะ, ข้าวพันธุ์ กข.39, และข้าวพันธุ์ก่ำล้านนา แก่ราษฎรบ้านสันติสุข สำหรับทำนาดำขั้นบันได และมอบผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อบรรเทาความหนาวเย็น

โครงการสถานีพัฒนาเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านสันติสุข ตั้งขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเป็นสถานที่ให้ความรู้แก่ราษฎรในการทำการเกษตรอย่างถูกหลักวิชาการ ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมทั้งปลูกฝังให้ร่วมกันอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าและแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำยม  โดยยึดระบบเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักในการดำเนินงาน  ปัจจุบัน ได้ส่งเสริมการปลูกพืชบนพื้นที่สูงแบบอนุรักษ์ และการทำนาดำ โดยสนับสนุนให้ราษฎรทำนาขั้นบั้นไดเพิ่มจาก 90 ไร่เป็น 610 ไร่ ได้ผลผลิตไร่ละ 40-50 ถัง ทำให้ราษฎรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากครอบครัวละ 15,000 บาทต่อปี เป็น 50,000 บาทต่อปี  นอกจากนี้ยังฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติมีพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นกว่า 4,000 ไร่ด้วย

ที่จังหวัดศรีสะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะจากส่วนกลาง ไปเยี่ยมครอบครัวเด็กกำพร้าที่บิดาเสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ปี 2556 ได้แก่ ครอบครัวเด็กหญิงศศิภัทร เครือวัลย์ อาศัยอยู่ที่อำเภอไพรบึง ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านหัวช้าง, และครอบครัวเด็กชายธีระนัย  จารุนัย อาศัยอยู่ที่อำเภอขุขันธ์ ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านสมบูรณ์ ทั้งนี้เพื่อพิจารณามอบทุนพระราชทานเพื่อการศึกษาสงเคราะห์

ส่วนที่หอประชุมอำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ร้อยเอกไพบูลย์ สุขเจตนี รองผู้อำนวยการกองงานพระวรชายาฯ เป็นผู้แทนพระองค์ มอบถุงพระราชทาน จำนวน 1,000 ถุง แก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาว พร้อมจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานฯ ไปตรวจรักษาผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย  ทั้งนี้ จังหวัดสกลนคร มีสภาพอากาศที่เย็นลงโดยเฉพาะในตอนเช้าและกลางคืน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และก่อไฟผิงเพื่อบรรเทาความหนาวเย็น โดยมีอุณหภูมิลดลงต่ำสุด 13-14 องศาเซลเซียส ส่วนยอดภูพานมีอุณหภูมิ 9-10 องศาเซลเซียส ราษฎรขาดแคลนเครื่องกันหนาวใน 18 อำเภอ กว่า 200,000 คน

วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

“ในหลวง-พระบรมวงศานุวงศ์” พระราชทานความช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ต่างๆ


เมื่อ 2 ธ.ค.2556 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ พระราชทานความช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ต่าง ๆ

เมื่อ 28 พ.ย.2556 ที่สำนักงานเทศบาลตำบลสันมหาพน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ นายพลากร  สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีพระราชทานความช่วยเหลือ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานความช่วยเหลือแก่ ครอบครัวนางสาวอรวรา พุทธินาท ราษฎรอำเภอแม่แตง และครอบครัวนายภครักษ์ แซ่เฉียว ราษฎรอำเภอเมือง ซึ่งได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือ โดยได้พระราชทานทุนการศึกษาต่อเนื่อง ทุนประกอบอาชีพ ทุนสนับสนุนการดำรงชีพ และสิ่งของพระราชทาน จากนั้น องคมนตรีและคณะ ได้มอบถุงพระราชทานจำนวน 500 ถุง แก่ราษฎรอำเภอแม่แตง ในการนี้ หน่วยแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการรักษาพยาบาลและทันตกรรมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทยทรงห่วงใยราษฎรในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ประสบภาวะความหนาวเย็น วันนี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ นำเครื่องกันหนาว จำนวน 1,200ชุด ไปมอบให้ผู้สูงอายุ และราษฎรในพื้นที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ณ องค์การบริหารส่วนตำบลคีรีราษฎร์เพื่อช่วยเหลือราษฎรหมู่ที่ 1-13 ตำบลคีรีราฎร์ และที่องค์การบริหารส่วนตำบลรวมไทยพัฒนา เพื่อช่วยเหลือราษฎรหมู่ที่ 1-11 ตำบลรวมไทยพัฒนา เพื่อบรรเทาความหนาวเย็น และสร้างขวัญกำลังใจ จังหวัดตากมีพื้นที่ประสบภัยหนาวรวม 5 อำเภอ 25 ตำบล 203 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อนกว่า 77,000 คน เกือบ 40,000 ครัวเรือน

ส่วนที่ว่าอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง ภาฯยามยาก สภากาชาดไทย โปรดให้ นายอภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิฯ เป็นผู้แทนพระองค์ เชิญถุงยังชีพพระราชทาน รวม 1,010 ชุดไปถวายแด่พระสงฆ์ และมอบแก่ผู้สูงอายุ คนพิการ ที่ประสบอุทกภัยพื้นที่อำเภอระโนด เพื่อสนับสนุนจังหวัด ในการช่วยเหลือ และเตรียมการช่วยเหลือด้านการยังชีพแก่ราษฎร เนื่องจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน และมีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและที่อยู่อาศัยของราษฎร

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

“ในหลวง-ราชินี” พระราชทานแจกันดอกไม้แก่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ


เมื่อ 12 พ.ย.2556 แถลงการณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานแจกันดอกไม้แก่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีซึ่งทรงเข้ารับการถวายการรักษานิ่วในท่อพระวักกะ

สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 เรื่อง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ว่าวันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา ได้รายงานว่า ผลการตรวจทางรังสีวิทยา ยังพบนิ่วอยู่ที่ท่อพระวักกะ หรือไตขวา คณะแพทย์ฯ จึงได้ถวายการรักษาด้วยการส่องกล้องเพื่อนำนิ่วออก เมื่อเช้าวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2556 คณะแพทย์ฯ สามารถนำนิ่วที่พบอยู่นั้นออกได้หมด หลังถวายการรักษาด้วยการส่องกล้อง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระอาการดีขึ้น คณะแพทย์ฯยังคงถวายพระโอสถปฏิชีวนะต่อไป  และกราบบังคมทูลให้ประทับพักในโรงพยาบาลต่ออีกสักระยะหนึ่ง

และที่ตึกว่องวานิช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้เชิญแจกันดอกไม้พระราชทานไปทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  พร้อมกันนี้ องคมนตรี และคู่สมรส ได้ลงนามถวายพระพร ณ โถงชั้นล่าง ตึกอานันทมหิดล  ซึ่งตลอดทั้งวัน มีหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนผู้ถวายงานโครงการตามพระราชดำริ และประชาชน ไปลงนามถวายพระพร อาทิ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนมัธยมพระราชทานนายาว จังหวัดฉะเชิงเทรา, สถานเสาวภา สภากาชาดไทย, กรมประมง, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ รวมถึงนายปริวัฒน์ เศรษฐบุตร ผู้จัดการฝ่าย พร้อมผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 ที่ร่วมกันวาดภาพ ถวายพระพรให้มีพระพลานามัยแข็งแรง นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย, มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่งภาฯ ยามยาก สภากาชาดไทย, ประธานพระครูพราหมณ์ในฐานะผู้แทนองค์กรศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ในประเทศไทย, กองทัพภาคที่ 4 และกองทัพภาคที่ 1

วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

“ในหลวง” พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก แก่นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย

13813920981381392302l

  วันนี้( 11 ต.ค.2556) “ในหลวง”พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก แก่นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย
  วานนี้ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี   เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทยให้แก่นักกีฬา วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยและเจ้าหน้าที่
  ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ให้แก่นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย และเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้สร้างชื่อเสียงแก่ประเทศไทยได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ๒๐๑๓ ครั้งที่ ๑๗ ระหว่างวันที่ ๑๓ – ๒๑ กันยายน ๒๕๕๖ รวมทั้งสิ้น ๑๘ ราย  เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ เป็นกรณีพิเศษ ดังนี้
  นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย
  ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)
  นางสาววรรณา บัวแก้ว
  นางสาวปลื้มจิตร์ ถินขาว
  นางสาวอำพร หญ้าผา
  นางสาวนุศรา ต้อมคำ
  นางสาววิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์
  นางสาวอรอุมา สิทธิรักษ์
  นางสาวมลิกา กันทอง
  นางสาวฐาปไพพรรณ ไชยศรี
  นางนางสาวปิยะนุช แป้นน้อย
  นางสาวทัดดาว นึกแจ้ง
  นางสาวพรพรรณ เกิดปราชญ์
  นางสาวอัจฉราพร คงยศ

ผู้ฝึกสอนและผู้ช่วยผู้ฝึกสอน
ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)
  จ่าอากาศเอก เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร
  นาวาอากาศตรี ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค
  นายดนัย ศรีวัชราเมธากุล

เจ้าหน้าที่ประจำทีม
ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)
  นายกฤตพล พิทธไชย

ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.)
  นายพิสิษฐ์ นัทธี

ชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.)
  นางสาวทิพยรัตน์ แก้วใส

ประกาศ ณ วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

เรื่องเล่าจากในวัง....แล้วคุณจะรัก " ในหลวง "

ผมมีเรื่องที่จะเล่าให้ฟัง อยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเรื่องจริง เหตุการณ์เกิดที่จังหวัดตาก เมื่อพระเทพทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฎรตามที่ต่างๆ ได้ทรงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนในตลาดสด และถามความเป็น อยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาด แต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา
ซึ่งพระองค์ทรง ตรัสถามว่า  "ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ"
แม่ค้าตอบว่า "ที่ สวรรคตแล้ว กิโลละ 40 บาท
และที่เสด็จไปเสด็จมา กิโลละ 80 บาทจ๊ะ"
เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพารที่ ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน
------------------------------------

เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7 โมงเช้า นางสนองพระโอษฐ์
ของฟ้าหญิงองค์ เล็ก ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับ ฟ้าหญิง
ทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสาย ด้วย
ก็มี เสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์ นางสนองพระโอฐก็ งง...งง
ว่าคนที่แบงค์ ทำไมโทรมาแต่เช้า แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่หว่า
แต่ พอฟ้าหญิงรับ โทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่แบงค์น่ะ
ก็ที่แบงค์จริงๆนะ ไม่ เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์ แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ . ขนลุก เลย
( ทรงตรัสกับในหลวงท่านอยู่นั่น เอง)
------------------------------------

อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสานเมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้าน ของราษฎรผู้หนึ่ง
ที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการ กราบบังคมทูล
ที่คล่องแคล่วและใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่า ฉงน
เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชา ศัพท์ได้ดีนี้
จึงมีคำกราบทูลว่า " ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผ ลิเกเก่า
บัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวนพระ พุทธเจ้าข้า.."
มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ ที่ชานเรือน
ก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่ ตัว.
พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า  " มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไป
ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลย และทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้ เดียว "
เรื่องนี้ ดร.สุเมธ  เล่าว่าเป็นที่ต้องสะกด กลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ยกเว้นแม้ในหลวง
------------------------------------

เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72 พรรษา
มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น
เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่น เรื่องขออนุญาตนำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็นรุ่นพิเศษ
ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า
"ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่ มิกกี้เมาส์"
------------------------------------

เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับ ในหลวง ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้ง แผ่นดิน
และไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงาน
ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน มีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคมทูลรายงาน
ว่า "ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต
กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ"
"ข้าพระพุทธ เจ้าพลตรีภูมิพลอดุลยเดชขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต
กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ"
เมื่อสิ้นคำกราบบังคมทูลชื่อในหลวงทรงแย้มพระสรวล อย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า "เออ ดี เราชื่อเดียว กัน..."
ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้า ต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัย เพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้
------------------------------------

มีอยู่ครั้ง หนึ่งทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญาบัตร
ให้กับนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย ทรงโปรดสูบมวน พระโอสถ
แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้
ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูล ว่า
" ถวายพระเพลิงพระเจ้า ข้า "
ในหลวงทรงชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อยๆ กับ อธิการบดีว่า
" เรายังไม่ตายถวายพระเพลิงไม่ได้ หรอก"

------------------------------------

เคยมีเรื่องเล่าให้ฟังว่า ในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อเยี่ยม เยียนราษฎร
มีอยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระเครื่องให้กับราษฎรจนหมดแล้ว
แต่ราษฎรผู้หนึ่งกราบบังคมทูลขอรับพระราชทานพระเครื่องว่า
"ขอเดชะ ขอพระ หนึ่งองค์"
ในหลวงทรงตรัสว่า "ขอเดชะ พระหมด แล้ว"
------------------------------------

วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตาม ปกติที่ต่างจังหวัด
ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมาก มาย
พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระ บาท
ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลง กราบแทบพระบาท
แล้วก็เอามือของแกมาจับ พระหัตถ์ของ ในหลวง
แล้วก็พูดว่า ยายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอ ในหลวง
แล้วก็พูดว่า ยายอย่างโน้น ยายอย่าง นี้
อีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรง เฉยๆ
มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร
แต่พวกข้าราชบริภารก็มองหน้ากันใหญ่
กลัวว่าพระองค์จะทรงพอ พระราชหฤหัย หรือไม่
แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบ ว่ากับหญิงชราคนนั้น
ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ ไหว เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า
" เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อน กว่าแม่ฉันตั้งเยอะ  ต้องเรียกน้าซิถึงจะ ถูก"
------------------------------------

ครั้งหนึ่ง หลายๆ ปีมา แล้ว
พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับ พระฉวีมีพระอาการคัน
มีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษา
คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางราชา ศัพท์
ก็กราบบังคมทูลว่า "เอ้อ - ทรง...อ้า - ทร งพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะ ค่ะ"
พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัส ว่า " ฉันไม่ใช่ผู้หญิง นี่จะท้องได้ยังไง"
แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่า หมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกาย จริงๆ
ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า เอ้าพูดภาษา อังกฤษกันเถอะ
------------------------------------

เรื่องนี้รุ่นพี่ที่จุฬาฯเล่าให้ฟัง ว่า มีอยู่ปีนึงที่ ในหลวงทรงเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร อธิการบดีอ่านรายชื่อ บัณฑิตแล้วบังเอิญว่า มีเหตุขัดข้องบางประการ ทำให้อ่านขาดตอน
ก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อไปถึงไหน แล้ว
ปรากฏว่าในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลยตรัสกับ อธิการไปว่า

"เมื่อกี้นี้ (ชื่อ....) เค้ารับไป แล้ว"
และมีอีกปีนึงขณะที่พระราชทานปริญญาบัตรอยู่ดีๆ  ไฟดับไปชั่วขณะ...
ทำให้บัณฑิตคน หนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่ายรูป
พอในหลวงทรงพระราชทาน ปริญญาบัตรเรียบร้อยแล้ว
ก่อนที่จะให้พระบรมราโชวาท
ท่านทรงให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมารับ พระราชทานอีกครั้ง
เพื่อจะได้มีรูปไว้เป็นที่ระลึก
ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอประชุม
------------------------------------

ถ้ารักท่านก็ส่งไปเรื่อยๆ นะ คนไทยทุกคนจะได้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้น
ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

“พระราชินี” พระราชทานชุดธารน้ำใจแก่ผู้ประสบอุทกภัย จ.สุรินทร์

220_0_0

  วันนี้( 26 ก.ย.2556) สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานชุดธารน้ำใจแก่ผู้ประสบอุทกภัย จ.สุรินทร์
      วานนี้ที่หอประชุมโรงเรียนสำโรงทาบวิทยาคม สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ นำชุดธารน้ำใจสภากาชาดไทยพระราชทานจำนวน 2,000 ชุด มอบแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ณ หอประชุมโรงเรียนสำโรงทาบวิทยาคม จำนวน 1,000 ชุด และช่วงบ่ายจะมอบให้ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอศรีณรงค์ จำนวน 1,000 ชุด

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ฯ รัชกาลที่ ๙ พ.ศ. ๒๔๙๙