แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รักในหลวง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รักในหลวง แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

คนไทย..รักในหลวงอย่างไร..?? โครงการเขื่อนแม่วงก์ กับ สถาบันฯ


  รัฐบาลกำลังจงใจทำให้ประชาชนวิวาทกัน  และพาลเข้าใจสถาบันพระมหากษัตริย์ผิด  ซ้ำซากอย่างจงใจ
  เพราะอะไร…
  1. ตอนนี้มีคนต่อต้าน EHIA ของโครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ของกรมชลประทาน และเขาได้อธิบายถึงความไม่ชอบมาพากลของ EHIA ฉบับนี้  พร้อมด้วยข้อมูลสนับสนุนอย่างเหนียวแน่น
 แต่แล้วรัฐบาลก็ไม่อธิบายว่า EHIA ที่เขาสงสัยกันว่าจะฉ้อฉลนี้ เป็นมีความจริงเบื้องหลังอย่างไร แทนที่จะนำข้อมูลมาเผยให้ประชาชนรู้ กลับบอกว่าเขื่อนแม่วงก์นี้มีประโยชน์ ป้องกันน้ำท่วมได้อย่างไร
  ผมถึงบอกว่า ผู้จัดการที่ฉ้อฉลกับนักการเมืองที่ชั่วร้ายเจ้าเล่ห์ มันจะทำเละเทะ เหลวแหลก
  2. มันจึงเกิดการจงใจเปิดประเด็นถกเถียงเบี่ยงเป้าใหม่ ไปเป็นว่า คนรักป่าไม่เอาเขื่อน ขัดแย้งกับคนเอาเขื่อนไม่รักป่า และกำลังสร้างเงื่อนไขให้ ม๊อบชนม๊อบ และยังบิดพลิ้วจงใจลากให้กลายเป็นประเด็นขัดแย้ง ระหว่างคนไม่ถูกน้ำท่วมกับคนถูกน้ำท่วม ซึ่งจะเลยเถิดไปมากจนน่ากลัวจะเกิดสงครามกลางเมือง
…ทั้งที่ประเด็นแท้จริง คือ เขาต่อต้าน EHIA ที่ฉ้อฉลนั้น และเขาต้องการเปิดโปงไอ้โม่งที่ทำ EHIA ฉ้อฉลนี้ พี่น้องไทยทั้งหลาย…อย่าหลงกล เบี่ยงประเด็น
ผมถึงบอกไงว่า ผู้จัดการที่ฉ้อฉล กับนักการเมืองที่ชั่วร้าย มันจะทำชาติฉิบหายโดยไม่ไยดี
  3. ตอนนี้ รัฐบาลกำลังสู้มติและข้อมูลอันหนักแน่นของฝ่ายคัดค้านไม่ได้ เพราะอธิบายเรื่องฉ้อฉลของ EHIA ไม่ได้ ก็พาลออกมาแสดงอำนาจข่มแล้ว “คนที่ต้านมันจะเอาอะไรหนักหนา” …. “ สัตว์ป่าสร้างได้ …” ทั้งที่ตัวเองนั้นแหละ พลิกลิ้น ตีสองหน้า มานานกว่า ๑๐ ปีจนคนจับได้คาหนังคาเขา ทั้งที่การเปิดเผยข้อมูล มันง่ายเสียยิ่งกว่าอะไร
ผมถึงบอกไงว่า ผู้จัดการที่ฉ้อฉล กับนักการเมืองที่ชั่วราย มันจะฮุบมรดก และป่าไม้ของชาติเป็นของตัวเอง ครอบครัวและพรรคพวกมันร่ำรวยกันถ้วนหน้า แต่ชาวประชายากจน เป็นหนี้เป็นสินและ น้ำท่วมซ้ำซากซ้ำเติม โอ่ มันช่างเป็นเวรกรรมของประชาชนชาวไทย จริงๆ
  4.. หนักเข้า เมื่อจะถูกจับเค้นความจริงอีกครั้ง กลุ่มคนฉ้อฉลก็เริ่มจนแต้ม เหมือนเรื่องฮุบผลประโยชน์จาก ปิโตรเลียม ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง โดยไม่อินังขังขอบกับข้อเท็จจริง คนเหล่านี้ก็เริ่มเบี่ยงประเด็น ปัดสวะ ด้วยเล่ห์เลวร้ายแบบเดิม ๆ
คือใส่ร้ายป้ายสีสถาบันพระมหากษัตริย์อีกครั้ง
  ด้วยการเอ่ยว่า…บอกความไม่จริงอีกครึ่งไม่ได้ (แต่ไม่ได้บอกว่าส่วนอีกครึ่งที่บอกไปแล้วนั้นเป็นคำโกหก) เขื่อนนี้เป็นเขื่อนโนโครงการพระราชดำริ เป็นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนมีการเชื่อมโยง Link กันให้วุ่นวาย
 ถึงแม้จะเป็นโครงการในพระราชดำริจริง ประชาชนส่วนใหญ่ประท้วง ต่อสู้และปกป้องการทำลายป่าไม้และสัตว์ป่า เพื่อเป็นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ จากการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ขนาด อจ.ศศิน เฉลิมลาภ ยอมทุกข์ทรมาน เดินประท้วงเป็นระยะทางนับร้อยกิโล
 ผมสามารถพูดได้เต็มปาก ว่า ถึงแม้โครงการนี้ดีเช่นไร (ตามโฆษณา จากคนที่อยากจะสร้าง) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ไม่ได้ให้สร้างแน่นอน เพราะทรงมีพระปฐมบรมราชโองการ ว่า
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
เมื่อมีเหตุการณ์วุ่นวายเช่นนี้เกิดขึ้น ไม่ว่าโครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ ของกรมชลประทาน จะดีเด่นขนาดไหนที่รัฐฯ ออกมาโกหกประชาชนเช่นไร
ถ้าประชาชนเดือดร้อน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงมีทศพิธราชธรรม จะทรงฟังเสียงของประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของประเทศ และเป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติ ของแผ่นดินเป็นหลัก
มิใช่ทรงฟังส่วนน้อย เพราะทรงได้มีพระปฐมบรมราชโองการในวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ไว้แล้ว และพระองค์มิได้มองถึงผลประโยชน์ในการสร้างเขื่อนแม่วงก์หรือในโครงการพระราชดำริทุกๆโครงการ
ไม่ว่า โครงการของกรมชลประทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพียงแต่ทรงวางแนวทางให้เท่านั้น
 และทุกๆโครงการ พระองค์จะทำเพื่อ ความผาสุกของประชาชนของพระองค์ มิได้ทรงหวังเศษๆเงิน (หรือก้อนใหญ่ๆ) ของงบประมาณของโครงการ เพราะฉะนั้นคนที่ออกมาพูดไม่ว่าจากฟากรัฐบาล หรือ บรรดานักวิชาการทั้งหลาย
 ขอความกรุณาโปรดกรุณาอย่าโยง โครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ ว่านี่เป็นโครงการในพระราชดำริ
 ถ้าจะพูดก็ขอให้พูดความจริงให้หมด อย่าครึ่งๆกลาง แฝงด้วยยาพิษ ใส่ร้ายองค์พระประมุขของพวกเรา ให้ประชาชนเข้าใจผิดๆได้
  และขอให้ย้อนกลับไปดู พระปฐมบรมราชโองการ ซะ ผมขอร้องทุกๆฝ่ายด้วยมิตรไมตรีนะครับ
 อย่าเอาการเมืองและผลประโยชน์มาโยงกับสถาบันฯ
 คนไทยที่รัก พวกเราหลงกลนักการเมืองชั่วร้ายและผู้จัดการฉ้อฉลอีกแล้ว….
 มันกำลังเสี้ยม ให้เกิดขัดแย้งระหว่างคนจับทุจริตฉ้อฉล EHIA ให้เข้าใจผิดในสถาบันฯ
 ผมจงใจและปรามาสเลยว่า นี่คือเล่ห์เลว ของคนที่กล่าวเช่นนั้น
 เรากำลังตรวจสอบ EHIA ที่ฉ้อฉล เราต้องการจับคนโกง EHIA เหล่านี้ อย่างไร้ยางอาย
 ขอบคุณ อ.ศศิน เฉลิมลาภและคณะที่กล่าวชัดเจนว่า เราต่อต้าน EHIA ที่ฉ้อฉล ไม่ใช่เขื่อนหรือไม่ใช่น้ำท่วมหรือไม่ท่วม
 ผมอยากบอกให้คนไทยรู้ทัน นักการเมืองเจ้าเล่ห์พวกนี้ว่า ถ้าเป็นโครงการในพระราชดำริของพระองค์ท่านจริง ยกเลิกง่ายมากครับ
  The King Can do No Wrong มิใช่แปลว่า กษัตริย์ทำอะไรก็ไม่ผิด แต่หมายถึง กษัตริย์จะระมัดระวัง และทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง ต่างหาก
  ดังนั้น ถ้ารัฐบาลยืนยันว่า โครงการเหล่านี้ เป็นของในหลวงจริง รัฐบาลไม่มีอำนาจละก็ เข้าล็อค
 ผมพูดในฐานะพวกเราที่จงรักภักดีต่อสถาบันและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเปรียบ เหมือนเป็นลูกๆของพระองค์ท่านว่า ถ้าโครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์เป็นของพ่อจริง เผลอๆ พวกเราจะได้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท คืนให้คนไทยทุกคน ครบทุกบาท ทุกสตางค์โดยพวกเราประชาชนทั้งหลายไม่ต้องเป็นหนี้เลยด้วยซ้ำไป
  เกรงแต่ว่า ผู้จัดการฉ้อฉล ที่ชอบแอบอ้างและผ่องถ่ายให้ลูกเมีย ครอบครัวของมันนั้น มันจะแบ่งหัวคิวกันไปเรียบร้อยแล้ว หัวเด็ดตีนขาด มันจะตีกันทุกวิธี และฮุบไว้ทำเองในฐานะผู้ได้รับคัดเลือกน่ะสิ
ไอ้ที่มาเยิ้ว เยิ้ว กันนั้น ล้วนแต่เป็นพวกตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ เพื่อมาหลอกให้พวกเรา ไม่ว่าเสื้อแดง เสื้อเหลือง นักอนุรักษ์ นักวิชาการที่ดีและชั่วทั้งสองฝ่าย ตลอดจนประชาชนที่หาเช้า กินค่ำแบบพวกเรา มาฆ่ากันเอง เพื่อผลประโยชน์ของพรรคพวกเค้า.
……………………………………………………………..
ที่มา : บางส่วนจากบทความในเฟซบุ๊ค พลตรี ม.จ.จุลเจิม ยุคล

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

เรื่องเล่าจากในวัง....แล้วคุณจะรัก " ในหลวง "

ผมมีเรื่องที่จะเล่าให้ฟัง อยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเรื่องจริง เหตุการณ์เกิดที่จังหวัดตาก เมื่อพระเทพทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฎรตามที่ต่างๆ ได้ทรงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนในตลาดสด และถามความเป็น อยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาด แต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา
ซึ่งพระองค์ทรง ตรัสถามว่า  "ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ"
แม่ค้าตอบว่า "ที่ สวรรคตแล้ว กิโลละ 40 บาท
และที่เสด็จไปเสด็จมา กิโลละ 80 บาทจ๊ะ"
เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพารที่ ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน
------------------------------------

เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7 โมงเช้า นางสนองพระโอษฐ์
ของฟ้าหญิงองค์ เล็ก ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับ ฟ้าหญิง
ทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสาย ด้วย
ก็มี เสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์ นางสนองพระโอฐก็ งง...งง
ว่าคนที่แบงค์ ทำไมโทรมาแต่เช้า แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่หว่า
แต่ พอฟ้าหญิงรับ โทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่แบงค์น่ะ
ก็ที่แบงค์จริงๆนะ ไม่ เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์ แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ . ขนลุก เลย
( ทรงตรัสกับในหลวงท่านอยู่นั่น เอง)
------------------------------------

อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสานเมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้าน ของราษฎรผู้หนึ่ง
ที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการ กราบบังคมทูล
ที่คล่องแคล่วและใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่า ฉงน
เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชา ศัพท์ได้ดีนี้
จึงมีคำกราบทูลว่า " ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผ ลิเกเก่า
บัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวนพระ พุทธเจ้าข้า.."
มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ ที่ชานเรือน
ก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่ ตัว.
พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า  " มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไป
ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลย และทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้ เดียว "
เรื่องนี้ ดร.สุเมธ  เล่าว่าเป็นที่ต้องสะกด กลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ยกเว้นแม้ในหลวง
------------------------------------

เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72 พรรษา
มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น
เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่น เรื่องขออนุญาตนำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็นรุ่นพิเศษ
ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า
"ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่ มิกกี้เมาส์"
------------------------------------

เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับ ในหลวง ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้ง แผ่นดิน
และไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงาน
ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน มีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคมทูลรายงาน
ว่า "ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต
กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ"
"ข้าพระพุทธ เจ้าพลตรีภูมิพลอดุลยเดชขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต
กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ"
เมื่อสิ้นคำกราบบังคมทูลชื่อในหลวงทรงแย้มพระสรวล อย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า "เออ ดี เราชื่อเดียว กัน..."
ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้า ต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัย เพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้
------------------------------------

มีอยู่ครั้ง หนึ่งทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญาบัตร
ให้กับนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย ทรงโปรดสูบมวน พระโอสถ
แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้
ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูล ว่า
" ถวายพระเพลิงพระเจ้า ข้า "
ในหลวงทรงชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อยๆ กับ อธิการบดีว่า
" เรายังไม่ตายถวายพระเพลิงไม่ได้ หรอก"

------------------------------------

เคยมีเรื่องเล่าให้ฟังว่า ในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อเยี่ยม เยียนราษฎร
มีอยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระเครื่องให้กับราษฎรจนหมดแล้ว
แต่ราษฎรผู้หนึ่งกราบบังคมทูลขอรับพระราชทานพระเครื่องว่า
"ขอเดชะ ขอพระ หนึ่งองค์"
ในหลวงทรงตรัสว่า "ขอเดชะ พระหมด แล้ว"
------------------------------------

วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตาม ปกติที่ต่างจังหวัด
ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมาก มาย
พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระ บาท
ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลง กราบแทบพระบาท
แล้วก็เอามือของแกมาจับ พระหัตถ์ของ ในหลวง
แล้วก็พูดว่า ยายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอ ในหลวง
แล้วก็พูดว่า ยายอย่างโน้น ยายอย่าง นี้
อีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรง เฉยๆ
มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร
แต่พวกข้าราชบริภารก็มองหน้ากันใหญ่
กลัวว่าพระองค์จะทรงพอ พระราชหฤหัย หรือไม่
แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบ ว่ากับหญิงชราคนนั้น
ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ ไหว เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า
" เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อน กว่าแม่ฉันตั้งเยอะ  ต้องเรียกน้าซิถึงจะ ถูก"
------------------------------------

ครั้งหนึ่ง หลายๆ ปีมา แล้ว
พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับ พระฉวีมีพระอาการคัน
มีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษา
คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางราชา ศัพท์
ก็กราบบังคมทูลว่า "เอ้อ - ทรง...อ้า - ทร งพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะ ค่ะ"
พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัส ว่า " ฉันไม่ใช่ผู้หญิง นี่จะท้องได้ยังไง"
แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่า หมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกาย จริงๆ
ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า เอ้าพูดภาษา อังกฤษกันเถอะ
------------------------------------

เรื่องนี้รุ่นพี่ที่จุฬาฯเล่าให้ฟัง ว่า มีอยู่ปีนึงที่ ในหลวงทรงเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร อธิการบดีอ่านรายชื่อ บัณฑิตแล้วบังเอิญว่า มีเหตุขัดข้องบางประการ ทำให้อ่านขาดตอน
ก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อไปถึงไหน แล้ว
ปรากฏว่าในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลยตรัสกับ อธิการไปว่า

"เมื่อกี้นี้ (ชื่อ....) เค้ารับไป แล้ว"
และมีอีกปีนึงขณะที่พระราชทานปริญญาบัตรอยู่ดีๆ  ไฟดับไปชั่วขณะ...
ทำให้บัณฑิตคน หนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่ายรูป
พอในหลวงทรงพระราชทาน ปริญญาบัตรเรียบร้อยแล้ว
ก่อนที่จะให้พระบรมราโชวาท
ท่านทรงให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมารับ พระราชทานอีกครั้ง
เพื่อจะได้มีรูปไว้เป็นที่ระลึก
ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอประชุม
------------------------------------

ถ้ารักท่านก็ส่งไปเรื่อยๆ นะ คนไทยทุกคนจะได้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้น
ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ฯ รัชกาลที่ ๙ พ.ศ. ๒๔๙๙