แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พระมหากรุณาธิคุณ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พระมหากรุณาธิคุณ แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

มูลนิธิสายใจไทยเพื่อคนพิการ


ดร.สุทิน ลี้ปิยะชาติ

ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ ด้วยวันที่ 9 พฤศจิกายน 2556 เป็นวันคนพิการแห่งชาติ ผมขอนำเรียนทุกท่านเกี่ยวกับพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีที่ทรงมีต่อคนพิการในสังคม

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่เปรียบมิได้ โดยได้รับการสนับสนุนด้านข้อมูลจากมูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์  ดังนี้

ขอเริ่มต้นจากการอัญเชิญพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่คณะกรรมการมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการ ในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2517 ความตอนหนึ่งว่า

“…งานช่วยเหลือคนพิการนี้ ก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะว่าผู้พิการไม่ได้อยากจะเป็นผู้พิการ และอยากช่วยเหลือตนเองถ้าเราไม่ช่วยเขาให้สามารถที่ปฏิบัติงานอะไร เพื่อชีวิตและเศรษฐกิจของครอบครัวจะทำให้เกิดสิ่งที่หนักในครอบครัวหนักแก่ส่วนรวมฉะนั้นนโยบายที่จะทำก็คือ ช่วยเขาให้ช่วยเหลือตนเองได้ เพื่อจะทำให้เขาสามารถเป็นประโยชน์ต่อสังคม…”


เพื่อสนองแนวพระราชดำริและเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาทจากพระราชดำรัสเกี่ยวกับการดูแลคนพิการ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กำหนดให้วันเสาร์สัปดาห์ที่สองในเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันคนพิการ เพื่อเปิดโอกาสให้คนพิการได้พบปะกัน และมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ตลอดจนแสดงความสามารถในด้านต่างๆ และเรียนรู้วิทยาการใหม่ๆ เกี่ยวกับการบำบัด รักษา การป้องกันและฟื้นฟู สมรรถภาพให้ประชาชนทั่วไปได้เห็นถึงศักยภาพ ศักดิ์ศรีและคุณค่าของคนพิการว่าสามารถเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้

ทั้งนี้ จากการศึกษาพระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถพบว่าทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคคลกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก โดยคนพิการนั้น มีความหมายครอบคลุมถึง กลุ่มบุคคลที่มีร่างกายผิดปกติ ได้แก่ คนตาบอด หูหนวก เป็นใบ้ ขาด้วน แขนขาด เป็นต้น  และกลุ่มบุคคลที่พิการเนื่องมาจากการสู้รบเพื่อป้องกันประเทศชาติ ได้แก่ ทหาร และราษฎรอาสาสมัคร เป็นต้น

ในการดูแลบุคคลกลุ่มหลังที่พิการเนื่องมาจากการสู้รับเพื่อป้องกันประเทศนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมทหารที่บาดเจ็บในสนามรบที่โรงพยาบาล และเมื่อทหารและตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บกลับมารักษาตัวที่กรุงเทพฯ ก็ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ให้ข้าราชบริพารฝ่ายในผลัดเปลี่ยนกันไปเยี่ยมเยียนดูแล ผู้ที่หายป่วยแล้วแต่พิการ ก็ทรงติดตามดูแลช่วยเหลือให้มีอาชีพ


ดังจะเห็นได้จากพระราชดำริให้ตั้ง มูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ขึ้นวันก่อตั้งมูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์นี้ เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยได้ทรงมีพระราชดำรัสในวันคล้ายวันพระราชสมภพและวันก่อตั้งมูลนิธิสายใจไทยฯ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2518 ความตอนหนึ่งว่า

“…ในวันที่ 2 เมษายน 2518 อันเป็นวันเกิดของข้าพเจ้า แทนที่จะทำบุญเลี้ยงพระเช่นเคย ข้าพเจ้าได้รวบรวมเงินเพื่อที่จะช่วยทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครที่บาดเจ็บพิการ และเสียชีวิตจากการต่อสู้ป้องกัน ประเทศชาติ… 2 เมษายน ของทุกปี ถือเป็นวันสายใจไทย ข้าพเจ้าจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยพร้อมใจกันบริจาคสมทบทุนมูลนิธิสายใจไทย ฯ นี้ โดยส่งเป็นเงินได้ที่มูลนิธิสายใจไทย ฯ…”

มูลนิธิสายใจไทยฯ มีวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งเพื่อสงเคราะห์คนพิการอันเนื่องมาจากการสู้รบและดูแลครอบครัวคนพิการเหล่านั้น โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานเงินทุนแรกเริ่มจำนวน 50,000 บาท รวมกับเงินส่วนพระองค์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อีกจำนวน 50,000  บาท และทรงมอบให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเป็นองค์ประธานของมูลนิธิสายใจไทยฯ

นอกจากจะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายทหาร ตำรวจ ราษฎรอาสาสมัครที่เสียชีวิต บาดเจ็บและพิการแล้ว มูลนิธิสายใจไทยฯ ยังฝึกสอนวิชาชีพ ให้แก่ทหารตำรวจและอาสาสมัครที่พิการ และนำผลงานออกจำหน่ายเป็นรายได้ให้แก่ผู้พิการเหล่านี้ด้วย โดยมูลนิธิสายใจไทยฯ ได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ณ ที่ทำการของมูลนิธิฯ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนศรีอยุธยา เขตพญาไท

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์ประธานของมูลนิธิสายใจไทยฯ ทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับคุณภาพการผลิตสินค้าของมูลนิธิฯ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2551  ความตอนหนึ่งว่า

“…ขอให้ทุกคนได้รักษาฝีมืออย่างนี้เอาไว้ เพื่อที่จะให้คนที่ซื้อของเรา เขาซื้อด้วยคุณภาพและฝีมือ ไม่ใช่ซื้อเพราะเป็นของมูลนิธิสายใจไทยฯ หรือเพราะความสงสาร สำหรับคนที่มาใหม่ ขอให้ดูรุ่นเก่าๆ ที่ดี เอาไว้เป็นตัวอย่าง…”


สินค้าของมูลนิธิสายใจไทยฯ ที่จัดจำหน่าย ประกอบด้วย สินค้าประเภทต่างๆ ที่หลากหลาย ดังนี้

 ประเภทแรก คือ งานเครื่องหนัง ได้แก่ เครื่องหนังแท้ เครื่องหนังเทียม เครื่องหนังประกอบผ้าทอมือ ขีต ผ้าไหม เครื่องสาน เย็บด้วยฝีมือประณีตสวยงาม

 ประเภทที่สอง คือ งานทำลวดลายบนแก้ว โดยมีแก้วรูปทรงต่างๆ ที่สลักลวดลายอย่างสวยงาม แพรวพราววิจิตร ตามลักษณะรูปทรง เช่น แจกัน โถ เหยือกจาน ของที่ระลึกต่างๆ

 ประเภทที่สาม คือ งานพู่กันระบายสี ได้แก่ งานระบายสีบนกระเบื้องเคลือบที่ต้องใช้เตาเผา และระบายสีบนวัสดุอื่นๆ เช่น ไม้ หนัง แก้ว โลหะ ดินเผาเป็นงานที่มีลวดลายสีสันสวยงาม

 ประเภทที่สี่ คือ งานไม้ ได้แก่ งานที่นำวัตถุดิบจากไม้ มาทำเป็นส่วนประกอบในชิ้นงานอื่นๆ เช่น ถาด โครงกระเป๋า และหูกระเป๋า เป็นต้น

ประเภทที่ห้า คือ งานตัดเย็บ โดยมีการประดิษฐ์ผ้าห่ม รับทำงานตัดเย็บต่างๆ สินค้าพิเศษที่มูลนิธิฯ จัดทำ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานฝึกอาชีพ เช่น หมอนอิงภาพทอพิเศษ

ประเภทที่หก คือ งานผลิตภัณฑ์การเกษตร เช่น ผักไร้ดิน ดอกไม้ เป็นต้นนอกจากนี้ มูลนิธิสายใจไทยฯ ยังได้จัดทำสินค้าอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานฝึกอาชีพ เช่น บัตร ส.ค.ส. บัตรเอนกประสงค์ การจัดสินค้าตามเทศกาลต่างๆ อีกด้วย

ท่านผู้สนใจสามารถบริจาค เพื่อสนับสนุนการดำเนินการของมูลนิธิสายใจไทยฯ ได้ที่ทำการของมูลนิธิฯ สาขาต่างๆ ได้แก่ ที่เขตพญาไท ติดต่อได้ที่  306/1 ถนนศรีอยุธยา พญาไท กรุงเทพฯ 10400

หรือติดต่อที่หมายเลข 0 2354 5996-7 และที่เขตบางนา ติดต่อได้ที่ มูลนิธิสายใจไทยฯ เลขที่ 265 ถนนสรรพาวุธ เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260

หรือติดต่อที่หมายเลข 0 2183 5115 และที่ศูนย์ราชการ ติดต่อได้ที่ อาคาร B ชั้น 1 ฝั่ง กกต. ซึ่งเปิดทำการตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ทุกวัน เว้นวันหยุดราชการ หรือติดต่อได้ที่หมายเลข 0 2143 9543

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ฯ รัชกาลที่ ๙ พ.ศ. ๒๔๙๙